หลายคนอาจจะเคยเห็นโฆษณา หรือดาราที่บำรุงผิวด้วยการให้วิตามินขวดเล็กๆ เป็นน้ำสีสันต่างๆ ที่เรียกกันว่า “IV drip” หรือ “Drip Vitamin” ซึ่งคือการให้วิตามินทางน้ำเกลือ ที่มีทั้งสูตรเพื่อความขาวใส สูตรเพื่อสุขภาพแข็งแรง สูตรนั้นสูตรนี้ อาจเกิดคำถามสงสัยว่าการรักษาแบบนี้จะดีไหม มีอันตรายหรือไม่ เหมาะกับใครบ้าง บทความนี้จะมาช่วยไขข้อข้องใจต่างๆ
วิตามิน (Vitamin) เป็นสารอินทรีย์ที่ร่างกายต้องการในปริมาณน้อย และไม่สามารถสังเคราะห์สารนั้นเองได้ในปริมาณที่เพียงพอและต้องได้รับจากอาหาร ถึงแม้ว่าร่างกายจะต้องการในปริมาณที่น้อย แต่วิตามินมีความจำเป็นต่อการทำงานของร่างกายมากๆครับ วิตามินจึงเป็นตัวจักรเล็กๆแต่มีความสำคัญอย่างยิ่งซึ่งร่างกายจะขาดไม่ได้เลยทีเดียวครับ
การฉีดวิตามินผิวใสที่นิยมทำกันในปัจจุบันนั้น ตัวยาที่ออกฤทธิ์หลักคือ วิตามินซี (Vitamin C) หรือที่เรียกอีกอย่างว่า กรดแอสคอร์บิก (Ascorbic acid) เป็นหนึ่งในวิตามินที่ร่างกายมีความต้องการเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างภูมิต้านทาน ต่อต้านอนุมูลอิสระ เพื่อนำไปสร้างคอลลาเจน ซึ่งคอลลาเจนมีประโยชน์ต่อการรักษาสุขภาพ และยังช่วยในการซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น กระดูก ฟัน และผิวหนัง
อีกทั้งยังช่วยบำรุงผิวพรรณได้อย่างดี ช่วยให้ร่างกายสดชื่น ป้องกันหวัด ป้องกันแสงแดด โดยมีหลายสูตรด้วยกัน หมอจะเลือกให้เหมาะกับความต้องการแต่ละรายไปครับ โดยหลักๆ มีส่วนผสม ดังนี้ครับ Vit C+ Vit B + Antioxidant + Amino + NAC + Collagen + Tran ครับ โดยที่ NAC (N-Acetyl Cysteine) เป็นโครงสร้างที่ออกฤทธิ์ทางชีวภาพและช่วยให้ร่างกายสังเคราะห์ Glutathione ออกมาตามธรรมชาติได้ดียิ่งขึ้น และยังช่วยต่อต้านสารอนุมูลอิสระได้อีกด้วย
รูปแสดงการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระ ภายในเซลล์
การให้วิตามินผิว มีข้อดีเยอะมากๆดังนี้ครับ
1.ร่างกายเราจะได้รับวิตามินและแร่ธาตุชนิดที่ดูดซึมได้เร็วและร่างกายนำไปใช้ได้เลย ซึ่งจะต่างกันกับอาหารเสริมวิตามินหรือแร่ธาตุแบบกิน ที่ร่างกายอาจจะได้รับสูงสุดเพียง 30% เท่านั้น (เพราะวิตามินจะสูญเสียไประหว่างเดินทางผ่านระบบทางเดินอาหาร) และวิตามินแบบกินก็มีข้อจำกัดในเรื่องของปริมาณ (Dosage) ต่อครั้งด้วย ดังนั้น การให้วิตามินและแร่ธาตุผ่านทางเส้นเลือด จึงเป็นวิธีที่ร่างกายจะรับสารอาหารที่มีประโยชน์ได้เร็วและมากที่สุด (ประมาณ 90%) 2.สามารถแทรกซึมเข้าสู่ระดับเซลล์ และสามารถนำไปใช้งานได้ทันที 3.ไม่มีผลข้างเคียงกับระบบทางเดินอาหารเหมือนกับการรับประมาณวิตามินหรือแร่ธาตุบางตัวที่ทำให้ท้องอืด 4.สามารถเพิ่มพลังงานให้เซลล์ได้ทันที ลดความเครียดและทำให้เกิดการผ่อนคลายทันที 5.เพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายลดอาการป่วย 6.ทำให้ผิวขาวกระจ่างใส สุขภาพผิวสมบูรณ์ 7.ทำให้ร่างกายฟื้นฟูหลังจากการออกกำลังกายหรือการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ
การฉีดวิตามินผิว อันตรายไหม? ในความเป็นจริงแล้ว สิ่งที่ต้องระวังเป็นอย่างมากในคนที่อยากฉีดเติมวิตามินให้ผิวขาวใส ก็คือ อันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการไปฉีดวิตามินผิวที่ไม่ได้มาตรฐาน
อาจพบว่ามีสถานพยาบาลบางแห่งทำการฉีดสาร Glutathione เข้าสู่ร่างกายให้คนไข้โดยตรง เพื่อให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของสีผิวที่รวดเร็ว แต่ตัวยาดังกล่าวยังไม่ผ่านการขึ้นทะเบียนกับ อย. ซึ่งการฉีดยาเข้าสู่ร่างกายผ่านทางเส้นเลือดดำโดยตรงอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงและอาการแพ้ได้ครับ
อาการแพ้นั้นสามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วและรุนแรง ทำให้เกิดผื่นขึ้น ความดันต่ำ หรือภาวะช็อกได้ครับ
การฉีดวิตามินผิวใสที่มีส่วนประกอบหลักเป็นวิตามินซีควรหลีกเลี่ยงในหญิงตั้งครรภ์, คนไข้ที่ป่วยเป็นโรคตับ/โรคไต, คนไข้ที่มีภาวะพร่องเอนไซม์ (G6PD Deficiency) คนไข้ที่มีภาวะเหล็กเกินเพราะวิตามินซีจะเข้าไปทำให้ร่างกายเกิดการดูดซึมธาตุเหล็กได้มากขึ้นอีก ทำให้เกิดความไม่สมดุลของแร่ธาตุได้
ทางที่ดีควรเลือกคลินิกฉีดวิตามินผิวที่น่าเชื่อถือที่ดูแลโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ มีมาตรฐานและใช้ของแท้ที่ปลอดภัยเท่านั้นครับ
ในการ ฉีดวิตามินผิว ใส เป็นการกระตุ้นผิวให้แลดูเปล่งปลั่ง จะมีสารบางตัวที่สามารถเปลี่ยนสีผิวเราให้ดูขาวกระจ่างใสขึ้น ลดการสร้างเม็ดสี และสารต้านอนุมูลอิสระ เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกใน 1-2 สัปดาห์ สังเกตจากผิวลื่นขึ้น ดูสดใสมีออร่า รอยแผลต่างๆ บนร่างกายหายได้เร็วขึ้นเรื่อยๆ โดยความถี่ ในช่วงแรกอาจจะฉีดสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เมื่อผิวใสตามต้องการแล้ว คงไว้ที่เดือนละ 1 ครั้งก็เพียงพอแล้วครับ
ข้อดีหลัก ๆ คือ การ ฉีดวิตามินผิว ไม่ได้ทำให้ผิวบางลง เพราะมันไปยับยั้งการเปลี่ยนสีของเมลานินในเซลล์ผิวได้โดยตรง แม้ว่าจะหยุดฉีดแล้ว ก็ไม่ทำให้ผิวคล้ำขึ้นครับ
ก่อนตัดสินใจฉีดวิตามินผิวใส ควรศึกษาข้อมูลและเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ มีใบอนุญาตอย่างถูกต้อง ดำเนินงานโดยแพทย์ ให้คำแนะนำอย่างละเอียดเกี่ยวกับตัวยาที่ใช้ ราคาสมเหตุสมผล การซื้อวิตามินผิวมาฉีดเอง หรือฉีดกับหมอกระเป๋าถือว่าเป็นเรื่องอันตรายอย่างมาก
เพราะเราไม่สามารถตรวจสอบได้เลยว่ายาที่ใช้เป็นของแท้ที่ได้มาตรฐานหรือไม่ คนที่ฉีดให้มีความรู้ความชำนาญหรือไม่ รวมถึงความสะอาดในขั้นตอนต่างๆ และอุปกรณ์ที่ใช้ เมื่อฉีดวิตามินเข้าสู่กระแสเลือดแล้วอาจทำให้เกิดการติดเชื้อและเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
1.หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากๆ เพราะจะก่อให้เกิดสารอนุมูลอิสระ (Free Radical) ขึ้นในร่างกาย ซึ่งการมีสารนี้ในร่างกายมากๆ จะส่งผลให้เซลล์ต่างๆ เสื่อมเร็ว ผิวเหี่ยวย่น หากอยากให้หลังฉีดวิตามินผิวแล้วได้ผลลัพธ์ที่ดี ก็ควรละเว้นการดื่มแอลกอฮอล์ และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมอื่นๆ ที่ทำร้ายผิวพรรณครับ 2.เลี่ยงแสงแดด ทาครีมกันแดดเป็นประจำ
หลายคนอาจจะเคยเห็นโฆษณา หรือดาราที่บำรุงผิวด้วยการให้วิตามินขวดเล็กๆ เป็นน้ำสีสันต่างๆ ที่เรียกกันว่า “IV drip” หรือ “Drip Vitamin” ซึ่งคือการให้วิตามินทางน้ำเกลือ ที่มีทั้งสูตรเพื่อความขาวใส สูตรเพื่อสุขภาพแข็งแรง สูตรนั้นสูตรนี้ อาจเกิดคำถามสงสัยว่าการรักษาแบบนี้จะดีไหม มีอันตรายหรือไม่ เหมาะกับใครบ้าง บทความนี้จะมาช่วยไขข้อข้องใจต่างๆ
วิตามิน คืออะไร?
วิตามิน (Vitamin) เป็นสารอินทรีย์ที่ร่างกายต้องการในปริมาณน้อย และไม่สามารถสังเคราะห์สารนั้นเองได้ในปริมาณที่เพียงพอและต้องได้รับจากอาหาร ถึงแม้ว่าร่างกายจะต้องการในปริมาณที่น้อย แต่วิตามินมีความจำเป็นต่อการทำงานของร่างกายมากๆครับ วิตามินจึงเป็นตัวจักรเล็กๆแต่มีความสำคัญอย่างยิ่งซึ่งร่างกายจะขาดไม่ได้เลยทีเดียวครับ
การฉีดวิตามินผิวใส คืออะไร ?
การฉีดวิตามินผิวใสที่นิยมทำกันในปัจจุบันนั้น ตัวยาที่ออกฤทธิ์หลักคือ วิตามินซี (Vitamin C) หรือที่เรียกอีกอย่างว่า กรดแอสคอร์บิก (Ascorbic acid) เป็นหนึ่งในวิตามินที่ร่างกายมีความต้องการเป็นอย่างมาก
เนื่องจากมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างภูมิต้านทาน ต่อต้านอนุมูลอิสระ เพื่อนำไปสร้างคอลลาเจน ซึ่งคอลลาเจนมีประโยชน์ต่อการรักษาสุขภาพ และยังช่วยในการซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น กระดูก ฟัน และผิวหนัง
อีกทั้งยังช่วยบำรุงผิวพรรณได้อย่างดี ช่วยให้ร่างกายสดชื่น ป้องกันหวัด ป้องกันแสงแดด โดยมีหลายสูตรด้วยกัน หมอจะเลือกให้เหมาะกับความต้องการแต่ละรายไปครับ โดยหลักๆ มีส่วนผสม ดังนี้ครับ Vit C+ Vit B + Antioxidant + Amino + NAC + Collagen + Tran ครับ โดยที่ NAC (N-Acetyl Cysteine) เป็นโครงสร้างที่ออกฤทธิ์ทางชีวภาพและช่วยให้ร่างกายสังเคราะห์ Glutathione ออกมาตามธรรมชาติได้ดียิ่งขึ้น และยังช่วยต่อต้านสารอนุมูลอิสระได้อีกด้วย
รูปแสดงการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระ ภายในเซลล์
การให้วิตามินผิว การดริปผิว ดีไหม?
การให้วิตามินผิว มีข้อดีเยอะมากๆดังนี้ครับ
1.ร่างกายเราจะได้รับวิตามินและแร่ธาตุชนิดที่ดูดซึมได้เร็วและร่างกายนำไปใช้ได้เลย ซึ่งจะต่างกันกับอาหารเสริมวิตามินหรือแร่ธาตุแบบกิน ที่ร่างกายอาจจะได้รับสูงสุดเพียง 30% เท่านั้น (เพราะวิตามินจะสูญเสียไประหว่างเดินทางผ่านระบบทางเดินอาหาร) และวิตามินแบบกินก็มีข้อจำกัดในเรื่องของปริมาณ (Dosage) ต่อครั้งด้วย ดังนั้น การให้วิตามินและแร่ธาตุผ่านทางเส้นเลือด จึงเป็นวิธีที่ร่างกายจะรับสารอาหารที่มีประโยชน์ได้เร็วและมากที่สุด (ประมาณ 90%)
2.สามารถแทรกซึมเข้าสู่ระดับเซลล์ และสามารถนำไปใช้งานได้ทันที
3.ไม่มีผลข้างเคียงกับระบบทางเดินอาหารเหมือนกับการรับประมาณวิตามินหรือแร่ธาตุบางตัวที่ทำให้ท้องอืด
4.สามารถเพิ่มพลังงานให้เซลล์ได้ทันที ลดความเครียดและทำให้เกิดการผ่อนคลายทันที
5.เพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายลดอาการป่วย
6.ทำให้ผิวขาวกระจ่างใส สุขภาพผิวสมบูรณ์
7.ทำให้ร่างกายฟื้นฟูหลังจากการออกกำลังกายหรือการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ
การให้วิตามินผิว การดริปผิว เหมาะกับใครบ้าง?
การฉีดวิตามินผิวใส อันตรายไหม ?
การฉีดวิตามินผิว อันตรายไหม? ในความเป็นจริงแล้ว สิ่งที่ต้องระวังเป็นอย่างมากในคนที่อยากฉีดเติมวิตามินให้ผิวขาวใส ก็คือ อันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการไปฉีดวิตามินผิวที่ไม่ได้มาตรฐาน
อาจพบว่ามีสถานพยาบาลบางแห่งทำการฉีดสาร Glutathione เข้าสู่ร่างกายให้คนไข้โดยตรง เพื่อให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของสีผิวที่รวดเร็ว แต่ตัวยาดังกล่าวยังไม่ผ่านการขึ้นทะเบียนกับ อย. ซึ่งการฉีดยาเข้าสู่ร่างกายผ่านทางเส้นเลือดดำโดยตรงอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงและอาการแพ้ได้ครับ
อาการแพ้นั้นสามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วและรุนแรง ทำให้เกิดผื่นขึ้น ความดันต่ำ หรือภาวะช็อกได้ครับ
การฉีดวิตามินผิวใสที่มีส่วนประกอบหลักเป็นวิตามินซีควรหลีกเลี่ยงในหญิงตั้งครรภ์, คนไข้ที่ป่วยเป็นโรคตับ/โรคไต, คนไข้ที่มีภาวะพร่องเอนไซม์ (G6PD Deficiency) คนไข้ที่มีภาวะเหล็กเกินเพราะวิตามินซีจะเข้าไปทำให้ร่างกายเกิดการดูดซึมธาตุเหล็กได้มากขึ้นอีก ทำให้เกิดความไม่สมดุลของแร่ธาตุได้
ทางที่ดีควรเลือกคลินิกฉีดวิตามินผิวที่น่าเชื่อถือที่ดูแลโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ มีมาตรฐานและใช้ของแท้ที่ปลอดภัยเท่านั้นครับ
ฉีดวิตามินผิวกี่ครั้งจึงจะเห็นผล
ในการ ฉีดวิตามินผิว ใส เป็นการกระตุ้นผิวให้แลดูเปล่งปลั่ง จะมีสารบางตัวที่สามารถเปลี่ยนสีผิวเราให้ดูขาวกระจ่างใสขึ้น ลดการสร้างเม็ดสี และสารต้านอนุมูลอิสระ เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกใน 1-2 สัปดาห์ สังเกตจากผิวลื่นขึ้น ดูสดใสมีออร่า รอยแผลต่างๆ บนร่างกายหายได้เร็วขึ้นเรื่อยๆ โดยความถี่ ในช่วงแรกอาจจะฉีดสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เมื่อผิวใสตามต้องการแล้ว คงไว้ที่เดือนละ 1 ครั้งก็เพียงพอแล้วครับ
หยุดฉีดวิตามินผิว แล้วผิวจะกลับมาคล้ำหรือไม่ ?
ข้อดีหลัก ๆ คือ การ ฉีดวิตามินผิว ไม่ได้ทำให้ผิวบางลง เพราะมันไปยับยั้งการเปลี่ยนสีของเมลานินในเซลล์ผิวได้โดยตรง แม้ว่าจะหยุดฉีดแล้ว ก็ไม่ทำให้ผิวคล้ำขึ้นครับ
ฉีดวิตามิน ผิวที่ไหนดี ?
ก่อนตัดสินใจฉีดวิตามินผิวใส ควรศึกษาข้อมูลและเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ มีใบอนุญาตอย่างถูกต้อง ดำเนินงานโดยแพทย์ ให้คำแนะนำอย่างละเอียดเกี่ยวกับตัวยาที่ใช้ ราคาสมเหตุสมผล การซื้อวิตามินผิวมาฉีดเอง หรือฉีดกับหมอกระเป๋าถือว่าเป็นเรื่องอันตรายอย่างมาก
เพราะเราไม่สามารถตรวจสอบได้เลยว่ายาที่ใช้เป็นของแท้ที่ได้มาตรฐานหรือไม่ คนที่ฉีดให้มีความรู้ความชำนาญหรือไม่ รวมถึงความสะอาดในขั้นตอนต่างๆ และอุปกรณ์ที่ใช้ เมื่อฉีดวิตามินเข้าสู่กระแสเลือดแล้วอาจทำให้เกิดการติดเชื้อและเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
การดูแลตัวเองหลังฉีดวิตามินผิว
1.หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากๆ เพราะจะก่อให้เกิดสารอนุมูลอิสระ (Free Radical) ขึ้นในร่างกาย ซึ่งการมีสารนี้ในร่างกายมากๆ จะส่งผลให้เซลล์ต่างๆ เสื่อมเร็ว ผิวเหี่ยวย่น หากอยากให้หลังฉีดวิตามินผิวแล้วได้ผลลัพธ์ที่ดี ก็ควรละเว้นการดื่มแอลกอฮอล์ และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมอื่นๆ ที่ทำร้ายผิวพรรณครับ
2.เลี่ยงแสงแดด ทาครีมกันแดดเป็นประจำ