เมโสแฟต

การฉีด Meso fat คือ การฉีดสลายไขมันส่วนเกิน ปัญหาไขมันส่วนเกิน ซึ่งจัดเป็นปัญหาด้านความงามของคนวัยตั้งแต่ 20 ปีเป็นต้นไป เพราะการสะสมของไขมัน ในจุดที่ไม่พึงประสงค์  โดยมีสารออกฤทธิ์หลักๆ คือ

  • ฟอสฟาติดิลโคลีน (Phosphatidylcholine)
  • ดีโอซีโคเลท (Deoxycholate) 
  • เด็กซ์แพนทีนอล (Dexpanthenol) 
  • แอล-คาร์นิทีน (L-carnitine) 
  • กรดอะมิโน (Amino acid) หรือ เกลือแร่ (Minerals) 

 

สารเหล่านี้เป็นสารสกัดจากถั่วเหลืองหรือไข่แดง และวิตามินหลายชนิด ขั้นตอนการฉีด คือ แพทย์จะทำการผสมสารและยาดังกล่าว จากนั้นจะฉีดเข้าสู่ผิวหนังลึกเข้าไปในชั้นไขมัน สารนี้จะช่วยสกัดการสะสมของไขมัน และทำให้ไขมันใต้ชั้นผิวหนังสลายตัวออกมา ซึ่งปริมาณการฉีดสารเมโสแฟตแต่ละรายจะแตกต่างกันด้วย
ข้อดีของสารเมโสแฟตที่ฉีดเข้าไป คือ สามารถสลายออกจากร่างกายได้เอง เนื่องจากเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ
นอกจากนี้ สารเมโสแฟตยังช่วยให้เลือด และระบบต่อมน้ำเหลืองไหลเวียนสะดวกยิ่งขึ้นด้วย อีกทั้งเนื้อเยื่อรอบๆ บริเวณที่ฉีดจะแข็งแรง และกระชับขึ้น จากการที่มีการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาแทนที่บริเวณนั้นครับ ส่วนไขมันที่สลายออกมานั้น จะอยู่ในรูปของไขมันเหลว และถูกขับออกมาทางปัสสาวะกับทางอุจจาระ


นิยมฉีด Meso Fat ที่บริเวณใดบ้าง

1. ลดไขมันที่แก้ม ให้หน้าเรียวเล็ก 

2. ลดไขมันที่คาง (เหนียง)

3. ลดไขมันที่ต้นแขน ต้นขา หรือน่อง
4. ลดไขมันหน้าท้อง
5. ลดไขมันสะโพก
6. ลดไขมันที่หนังตาบน ส่งผลให้ตาหย่อนคล้อย

เมโสแฟตอันตรายไหม ที่ อย.ประกาศเตือนว่าอันตรายหมายถึงอะไร ?

 

เมโสแฟตสูตรที่อันตรายมี 2 ชนิด คือ

1 สเตียรอยด์
ถูกนำมาใช้ผิดวิธี โดยผสมสเตียรอยด์ปริมาณมากในเมโสแฟตที่ไม่ผ่าน อย. เพราะต้นทุนต่ำ เห็นผลไว แต่ เมื่อฉีดหลายๆ ครั้งจะทำให้หน้าบวมกว่าเดิม และเสี่ยงต่อการอักเสบติดเชื้อง่ายขึ้น เนื่องจากกดภูมิคุ้มกันของร่ายกาย สเตียรอยด์ที่ผสมในเมโสแฟตจะมีทั้งแบบสีขาวขุ่นและขาวใส 

ทางที่ดีควรขอดูยี่ห้อเมโสแฟต ก่อนฉีดทุกครั้งเพื่อความปลอดภัยครับ

2 ยาสลายฟิลเลอร์ ชื่อว่า hyaluronidase
ปกติจะใช้ในการฉีดสลายฟิลเลอร์ได้อย่างปลอดภัย แต่บางคลินิกนำมาใช้ผิดวิธี โดยการฉีดปริมาณมากๆ ทำให้คอลลาเจนในผิวถูกย่อยสลายออกไป ทำให้เนื้อยุบลงอย่างรวดเร็ว จึงเป็นที่นิยมเนื่องจาก ต้นทุนต่ำ และเห็นผลไว เมื่อฉีดหลายๆ ครั้ง จะทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย และผิวหย่อนลงเนื่องจากคอลลาเจนเสื่อมลง

เมโสแฟตที่นิยมขายตามอินเตอร์เนต แท้จริงแล้วคือยาสลายฟิลเลอร์(hyaluronidase)ที่นำมาใช้ผิดวิธี
เนื่องจากเมโสแฟตกำลังเป็นที่นิยมสูงขึ้นอย่างมาก ทั้งฉีดลดแก้ม ลดเหนียงและวิธีการฉีดเมโสแฟตนั้นไม่ยาก คนไข้บางกลุ่มจึงนิยมฉีดกับหมอกระเป๋าเพราะราคาถูก แต่แท้จริงแล้ว
หมอกระเป๋าจะไม่สามารถซื้อยาแท้ที่ผ่าน อย. ได้ เพราะมีกฏหมายยาควบคุม ดังนั้นยาที่หมอกระเป๋าใช้จึงมักไม่ปลอดภัย เป็นยาหิ้ว ยาปลอม ที่มีส่วนผสมที่อันตราย และไม่สะอาด จึงทำให้มีการอักเสบติดเชื้อหลายเคสจากตัวยาที่ไม่ปลอดภัยและวิธีการฉีดที่ไม่สะอาด ดังที่ อย. ออกมาเตือนครับ
สำหรับคนที่กำลังมองหาว่าควรเลือกฉีดเมโสแฟตที่ไหนดี ที่คลินิกไหนดี ควรเลือกฉีดเมโสแฟตที่ผ่านการขึ้นทะเบียนกับ อย. อย่างถูกต้อง และฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน และขอดูยี่ห้อเมโสแฟตก่อนฉีดทุกครั้ง เพื่อจะได้มั่นใจว่าส่วนผสมไม่มีอันตราย และสามารถตรวจสอบแหล่งผลิต บริษัทผู้นำเข้าได้ชัดเจน ไม่เสี่ยงต่อยาหิ้วยาปลอมที่อันตรายครับ

ข้อดีของการฉีด Meso fat

การฉีด Meso fat จะช่วยขจัดไขมันส่วนเกิน และปรับรูปหน้าหรืออวัยวะให้สมส่วนดูดีได้ในเวลาอันรวดเร็ว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ดูเรียวลงภายในเวลาที่จำกัด

ฉีดเมโสแฟตเจ็บไหม ?

การฉีดเมโสแฟตอาจจะรู้สึกหน่วงๆตอนกำลังเดินยาเท่านั้นครับ ซึ่งก็จะมีการประคบน้ำแข็งช่วย หรือแปะยาชาสำหรับคนที่กลัวเจ็บมากๆ 

แฟตลดแก้ม ใช้ปริมาณเท่าไหร่ต่อครั้ง

ปริมาณที่แนะนำคือ อย่างน้อยข้างละ ประมาณ 2 cc ต่อครั้ง แต่หากต้องการผลที่ชัดเจนมากขึ้นก็สามารถใช้ปริมาณตัวยาที่มากกว่านั้นได้ โดยไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงใดๆครับ

อาการหลังฉีดเมโสแฟต

หลังฉีดเมโสแฟตจะมีอาการบวมจากปริมาตรตัวยาที่ฉีดเข้าไป ซึ่งตัวยาจะซึมยุบไปเองประมาณ 3-4 ชั่วโมง ไม่ต้องกังวลครับ ไม่ปวด ไม่อักเสบ อาจจะมีอาการบวมเข็มได้เล็กน้อยเป็นปกติครับ

เมโสแฟต กี่วันเห็นผล

หลังจากฉีดเมโสแฟตไขมันจะเริ่มสลายตัว 10-15% ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ และจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นตั้งแต่วันที่ 3 เป็นต้นไปหลังรับการรักษา และจะเห็นผลชัดเจนเต็มที่ประมาณ 1-3 สัปดาห์หลังฉีด ทั้งนี้หลังฉีดเมโสแฟต กี่วันเห็นผลนั้นผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันของแต่ละบุลคล รวมไปถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตด้วย หากอยากเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากขึ้น ควรกลับมาฉีดซ้ำตามคำแนะนำของแพทย์ที่ประเมินใบหน้าของแต่ละบุคคลครับ

ต้องทำ Meso fat กี่ครั้งจะเริ่มเห็นผล

ส่วนใหญ่คนไข้จะเริ่มเห็นผลการรักษาตั้งแต่หลังทำครั้งแรกเลยครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการรักษาโดยใช้ตัวยาในปริมาณที่สูง จะสามารถสลายไขมันออกได้มากกว่า และเห็นผลชัดมากกว่า

เมโสแฟตอยู่ได้กี่เดือน ?

เมโสแฟต อยู่ได้นานแค่ไหน จะขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตประจำวัน การรับประทานอาหารด้วยเช่นกันครับ แต่ปกติแล้วจะสามารถรักษาผลลัพธ์ได้นาน 2-3 เดือน ถ้าดูแลตัวเอง ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หลีกเลี่ยงของทอด ของมัน ไม่เพิ่มไขมันให้ตัวเองก็จะช่วยรักษาผลลัพธ์ให้อยู่ได้นานขึ้น

ข้อควรระวังของการฉีด Meso fat

ไม่ใช่ผู้เข้ารับบริการทุกรายที่จะสามารถเข้ารับการฉีด Meso fat ได้ โดยจะมีกลุ่มคนที่ต้องหลีกเลี่ยงการฉีด Meso fat ได้แก่

1.ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ต้องให้อินซูลินอยู่เป็นประจำ
2.ผู้ป่วยที่เป็นโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดหรือระบบไหลเวียนของโลหิต 
3.ผู้ป่วยโรคมะเร็งหรือโรคที่จำเป็นต้องใช้ยารักษาจำนวนมาก
4.สตรีมีครรภ์
5.ผู้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปี

ข้อปฏิบัติและข้อห้ามหลังฉีดเมโสแฟตแก้ม/เหนียง

1.หลังทำแฟตแก้มไม่ควรกดหรือนวดในบริเวณที่ฉีด ตัวยาจะค่อยๆซึมยุบไปเอง
2.ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร เพราะไขมันที่สลายจะถูกขับออกทางปัสสาวะเป็นส่วนใหญ่ การดื่มน้ำจะช่วยให้ไขมันถูกขับออกจากร่างกายได้มากขึ้น
3.เปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหาร เพื่อไม่ให้ไขมันกลับมาอีก
4.หลังทำแฟตแก้มควรหลีกเลี่ยงการอบซาวหน้า นวดหน้า หรือทำเลเซอร์อย่างน้อย 1 สัปดาห์
5.หลังจากทำแฟตแก้มควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์

ถ้าหยุดทำแล้ว จะเป็นอย่างไร?

ในระยะยาวผู้รับการฉีดจะมีตัวเก็บไขมันในผิวลดลง ดังนั้นแก้มจึงลดลง และแม้หลังหยุดทำการรักษาไปแล้ว แก้มก็ไม่กลับมาอวบอีก เพราะไม่มีตัวเก็บไขมันแล้วนั่นเอง