“เมโสหน้าใส หรือ Mesotherapy” คือ การให้สารอาหารและวิตามินต่างๆในการช่วยบำรุงหน้า ด้วยวิธีการที่เร่งรัดและเห็นผลกว่าการทาครีม โดยการฉีดเข้าไปในชั้นผิวหนังแท้โดยตรง กล่าวง่ายๆ คือ ทางลัดในการนำส่วนผสมที่มีอยู่ในครีมต่างๆ โดยเฉพาะตัวที่ดูดซึมจากการทาได้ยาก ให้ออกฤทธิ์ไวขึ้น ดีขึ้น ซึ่งจากปกติอาจใช้เวลาเป็นเดือน ทำให้เริ่มเห็นผลได้ใน 2-3 วันหลังฉีดครับ
เมโสหน้าใส มีกี่แบบ? เมโสหน้าใสแต่ละยี่ห้อต่างกันอย่างไร? แบ่งเมโสหน้าใสได้เป็น 3 แบบดังนี้
1.ฉีดหน้าขาวใส มีส่วนผสมของวิตามินต่างๆที่ทำให้หน้าขาว รักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ เช่น vitamin ABCE, Transamin, Glutatione 2.เน้นหน้าใส จะมีส่วนผสมของ PDRN (Polydeoxyribonucleotide) เป็นสารที่สกัดระดับ DNA ,คอลลาเจน ,โคเอนไซม์ และแอนติออกซิเดนท์ต่างๆ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ให้ผิวฟูขึ้น กระชับรูขุมขน ปรับสมดุลความมันบนใบหน้า 3.เน้นลดสิว-แก้ผื่น จะช่วยลดการอักเสบ ขับสารพิษที่สะสมออก คอลลาเจนยังช่วยให้ต่อมไขมันทำงานลดลงช่วยลดสิว เมโสยี่ห้อที่มีจุดเด่นด้านนี้คือ มาเด้-คอลลาเจน ครับ
เนื่องจากผิวหน้าแต่ละคนมีลักษณะแตกต่างกัน การจะทราบว่าผิวหน้าของเรานั้น เหมาะกับ เมโสหน้าใส ตัวไหน เราควรให้หมอตรวจประเมินเพื่อปรับสูตรเมโสให้เหมาะกับสภาพผิวและความต้องการของแต่ละคนครับ
IYA มีส่วนประกอบหลัก คือ โกรทแฟคเตอร์ (Growth Factor) หรือโปรตีนบริสุทธิ์ (Hydrolized Protein) ,PDRN (Polydeoxyribonucleotide) สารสกัดระดับ DNA ,คอลลาเจน ,โคเอนไซม์ และแอนติออกซิเดนท์ต่างๆ ร่วมกับ vitamin ABCE, Transamin, Glutatione ซึ่งเป็นอาหารเซลล์ผิวสูตรเข้มข้นกว่า 300 ชนิด ร่วมกับการฉีดผสมระหว่างเทคนิคพรมทั่วหน้า(nappage)กับเทคนิคมาเด้ 16 จุด เพื่อช่วยปรับสมดุลของเซลล์และฮอร์โมนให้เหมาะสม ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น ยับยั้งการเกิดสิวใหม่ ไม่ว่าจะเป็นสิวผด สิวอักเสบ ร่วมกับมีฤทธิ์ยับยั้งการสร้างเม็ดสี(Melanin) ทำให้รอยดำจากสิวจางไป รวมถึงกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ช่วยให้หลุมสิวตื้นขึ้น รูขุมขนกระชับ ซึ่ง IYA นี้ได้มาจากการเพาะเลี้ยงสเต็มเซลล์ของมนุษย์ ผ่านขบวนการคัดกรองโรคต่างๆ ตามมาตรฐานสากล จึงมีความปลอดภัยสูง
1.การฉีดเมโสหน้าใส แบบสะกิด
เป็นวิธีการใช้เข็มฉีดยาสะกิดผิวหน้าเป็นจุดเล็ก ๆ ทั่วบริเวณใบหน้า เพื่อให้วิตามินซึมซาบเข้าสู่ผิว และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้กับชั้นผิว แต่ก็มีข้อเสียคือ อาจทำให้เกิดรอยช้ำ รอยแดงได้
2.การฉีดเมโสหน้าใส แบบ 16 จุด
เป็นวิธีการใช้เข็มฉีดตามทิศทางการไหลเวียนของต่อมน้ำเหลือง เพื่อให้วิตามินให้ซึมซาบเข้าสู่ผิว ซึ่งวิธีการฉีดแบบนี้จะทำให้เกิดแผลได้น้อยกว่า เจ็บน้อยกว่า รอยช้ำลดลง ประสิทธิภาพของยาออกฤทธิ์ได้ยาวนานมากขึ้น เปรียบเทียบคล้ายเราฝังตัวยาไว้ที่ต้นน้ำแล้วปล่อยให้ยาค่อย ๆ ไหลกระจายออกมา เทคนิคนี้จะออกฤทธิ์ได้นานกว่าแบบสะกิด
อย่างที่หลาย ๆ คนทราบกันดีว่าเมโสหน้าใส ช่วยให้ผิวหน้าดูสว่างกระจ่างใส และสีผิวดูเนียนสม่ำเสมอขึ้น เมโสหน้าใส ยังมีประโยชน์อื่นๆ อีกด้วยครับ
ฉีดเมโสหน้าใส ผลข้างเคียง อะไรบ้าง การฉีดเมโสหน้าใส เป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยสูง ไม่อันตรายครับ เนื่องจากตัวยาที่ฉีดเข้าไปเป็นสารที่มีประโยชน์ต่อผิว จำพวกวิตามินช่วยบำรุงให้ผิวกระจ่างใส ดังนั้น ผลข้างเคียงที่มีจะเป็นในเรื่องของรอยเข็มตามใบหน้าที่เกิดจากตอนฉีดตัวยา ซึ่งจะรอยเข็มเหล่านี้จะหายไปเองภายใน 1-3 วัน ทั้งนี้ควรศึกษาข้อมูลให้ดี เลือกคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ เพื่อความปลอดภัยครับ
หลังฉีดเมโสหน้าใส ปกติจะเริ่มเห็นผลประมาณ 3 วันหลังฉีด และจะเห็นผลเต็มที่ประมาณ 7-14 วัน และอยู่ได้ประมาณ 1-2 เดือนขึ้นอยู่กับการดูแลผิวของแต่ละคนด้วยครับ โดยปกติ เมโสหน้าใส จะฉีดอาทิตย์ละครั้งใน1 เดือนแรก และหลังจากนั้นฉีดทุก ๆ 2 อาทิตย์เพื่อคงสภาพ เมโสหน้าใส ไม่มีแบบถาวรครับ สลายหมดไม่มีสารตกค้าง
มี เมโสหน้าใส หลายยี่ห้อที่ไม่ผ่าน อย. นั่นหมายความว่า จะไม่สามารถยืนยัน ที่มาและแหล่งผลิตได้ รวมถึง ไม่มั่นใจว่าตัวยาที่อยู่ในเมโสนั้น ๆ จะเกิดผลเสียในระยะยาวหรือไม่ เช่น ถ้ามีส่วนผสมของ สเตียรอยด์หรือฮอร์โมน ก็จะทำให้เห็นผลไว ผิวขาวเนียนนุ่ม แต่เมื่อฉีดไปนานๆ 1-2 ปี จะทำให้ชั้นผิวบางลง เกิดฝ้า ผิวไวต่อแดดและเกิดริ้วรอยก่อนวัย
ดังนั้น จึงแนะนำว่า ควรขอดูยี่ห้อยา ก่อนฉีดเมโสทุกครั้ง เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัย
มี อย. หมายถึง เป็นยาที่ขึ้นทะเบียนถูกต้อง มีบริษัทที่นำเข้าชัดเจน การขนส่งยาถูกกรรมวิธี ยาไม่เสื่อมสภาพ และสามารถเช็คแหล่งผลิตได้ มีความปลอดภัย สามารถตรวจสอบกับ บริษัทที่นำเข้าได้ว่าคลินิกนั้นๆใช้ยาแท้หรือไม่
ถ้าไม่มี อย. ก็จะไม่มั่นใจว่า ใช่ยาแท้หรือไม่ เนื่องจากมีโรงงานจำนวนมากที่จีนนิยมทำสินค้าเลียนแบบ ประเภท เมโสหน้าใส ต่าง ๆ นี้ออกมามาก เพราะแค่กล่องเล็ก ๆ ก็สามารถขายได้ราคาสูง
โดยที่เทคโนโลยีการปลอมนั้น สามารถเลียนแบบแพคเกจได้เหมือน 100% แม้แต่หมอก็แยกไม่ออก หมอก็ต้องสั่งจากบริษัทที่นำเข้าที่ขึ้นทะเบียนกับ อย.เท่านั้นครับ (ยาหนึ่งยี่ห้อจะมีเพียงบริษัทเดียวที่ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้อง)
ในปัจจุบันมีคนขายเมโสขายในอินเตอร์เน็ต หรือรับฉีดเมโสหน้าใสราคาถูก โดยไม่ใช่แพทย์ ซึ่งอันตรายมากครับ หากขั้นตอนการฉีดไม่มีความสะอาดมากพอ ใช้ตัวยาที่ไม่ผ่านอย. อาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อและเกิดรอยแผลเป็นถาวรได้ครับ
ก่อนตัดสินใจฉีดเมโสหน้าใส ควรศึกษาข้อมูลและเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ มีใบอนุญาตอย่างถูกต้อง ดำเนินงานโดยแพทย์ผู้ที่สามารถให้คำแนะนำอย่างละเอียด ราคาสมเหตุสมผล ควรตรวจสอบตัวยาและกล่องยาก่อนฉีดทุกครั้ง ปกติเมโสหน้าใสที่ผ่าน อย. นั้น บริษัทที่นำเข้ามาอย่างถูกต้อง จะขายให้กับแพทย์เท่านั้นเพราะมีกฏหมายยาบังคับ ยาเมโสหน้าใสที่ลักลอบขายตามอินเทอร์เน็ตจะเป็นยาหิ้วและไม่ปลอดภัยครับ
ฉีดเมโสหน้าใส, ฝ้ากระ MESOTHERAPY คืออะไร?
“เมโสหน้าใส หรือ Mesotherapy” คือ การให้สารอาหารและวิตามินต่างๆในการช่วยบำรุงหน้า ด้วยวิธีการที่เร่งรัดและเห็นผลกว่าการทาครีม โดยการฉีดเข้าไปในชั้นผิวหนังแท้โดยตรง กล่าวง่ายๆ คือ ทางลัดในการนำส่วนผสมที่มีอยู่ในครีมต่างๆ โดยเฉพาะตัวที่ดูดซึมจากการทาได้ยาก ให้ออกฤทธิ์ไวขึ้น ดีขึ้น ซึ่งจากปกติอาจใช้เวลาเป็นเดือน ทำให้เริ่มเห็นผลได้ใน 2-3 วันหลังฉีดครับ
เมโสหน้าใส มีกี่แบบ? เมโสหน้าใสแต่ละยี่ห้อต่างกันอย่างไร?
แบ่งเมโสหน้าใสได้เป็น 3 แบบดังนี้
1.ฉีดหน้าขาวใส มีส่วนผสมของวิตามินต่างๆที่ทำให้หน้าขาว รักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ
เช่น vitamin ABCE, Transamin, Glutatione
2.เน้นหน้าใส จะมีส่วนผสมของ PDRN (Polydeoxyribonucleotide) เป็นสารที่สกัดระดับ DNA ,คอลลาเจน ,โคเอนไซม์ และแอนติออกซิเดนท์ต่างๆ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ให้ผิวฟูขึ้น กระชับรูขุมขน ปรับสมดุลความมันบนใบหน้า
3.เน้นลดสิว-แก้ผื่น จะช่วยลดการอักเสบ ขับสารพิษที่สะสมออก คอลลาเจนยังช่วยให้ต่อมไขมันทำงานลดลงช่วยลดสิว เมโสยี่ห้อที่มีจุดเด่นด้านนี้คือ มาเด้-คอลลาเจน ครับ
เนื่องจากผิวหน้าแต่ละคนมีลักษณะแตกต่างกัน การจะทราบว่าผิวหน้าของเรานั้น เหมาะกับ เมโสหน้าใส ตัวไหน เราควรให้หมอตรวจประเมินเพื่อปรับสูตรเมโสให้เหมาะกับสภาพผิวและความต้องการของแต่ละคนครับ
IYA คืออะไร ดียังไง ทำไมฮิต?
IYA มีส่วนประกอบหลัก คือ โกรทแฟคเตอร์ (Growth Factor) หรือโปรตีนบริสุทธิ์ (Hydrolized Protein) ,PDRN (Polydeoxyribonucleotide) สารสกัดระดับ DNA ,คอลลาเจน ,โคเอนไซม์ และแอนติออกซิเดนท์ต่างๆ ร่วมกับ vitamin ABCE, Transamin, Glutatione ซึ่งเป็นอาหารเซลล์ผิวสูตรเข้มข้นกว่า 300 ชนิด ร่วมกับการฉีดผสมระหว่างเทคนิคพรมทั่วหน้า(nappage)กับเทคนิคมาเด้ 16 จุด เพื่อช่วยปรับสมดุลของเซลล์และฮอร์โมนให้เหมาะสม ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น ยับยั้งการเกิดสิวใหม่ ไม่ว่าจะเป็นสิวผด สิวอักเสบ ร่วมกับมีฤทธิ์ยับยั้งการสร้างเม็ดสี(Melanin) ทำให้รอยดำจากสิวจางไป รวมถึงกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ช่วยให้หลุมสิวตื้นขึ้น รูขุมขนกระชับ ซึ่ง IYA นี้ได้มาจากการเพาะเลี้ยงสเต็มเซลล์ของมนุษย์ ผ่านขบวนการคัดกรองโรคต่างๆ ตามมาตรฐานสากล จึงมีความปลอดภัยสูง
เมโสหน้าใส คือ การฟื้นฟูผิวแบบเร่งด่วน ที่มีรูปแบบการฉีด 2 แบบ ดังนี้
1.การฉีดเมโสหน้าใส แบบสะกิด
เป็นวิธีการใช้เข็มฉีดยาสะกิดผิวหน้าเป็นจุดเล็ก ๆ ทั่วบริเวณใบหน้า เพื่อให้วิตามินซึมซาบเข้าสู่ผิว และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้กับชั้นผิว แต่ก็มีข้อเสียคือ อาจทำให้เกิดรอยช้ำ รอยแดงได้
2.การฉีดเมโสหน้าใส แบบ 16 จุด
เป็นวิธีการใช้เข็มฉีดตามทิศทางการไหลเวียนของต่อมน้ำเหลือง เพื่อให้วิตามินให้ซึมซาบเข้าสู่ผิว ซึ่งวิธีการฉีดแบบนี้จะทำให้เกิดแผลได้น้อยกว่า เจ็บน้อยกว่า รอยช้ำลดลง ประสิทธิภาพของยาออกฤทธิ์ได้ยาวนานมากขึ้น เปรียบเทียบคล้ายเราฝังตัวยาไว้ที่ต้นน้ำแล้วปล่อยให้ยาค่อย ๆ ไหลกระจายออกมา เทคนิคนี้จะออกฤทธิ์ได้นานกว่าแบบสะกิด
เมโสหน้าใส เหมาะกับใครบ้าง?
อย่างที่หลาย ๆ คนทราบกันดีว่าเมโสหน้าใส ช่วยให้ผิวหน้าดูสว่างกระจ่างใส และสีผิวดูเนียนสม่ำเสมอขึ้น เมโสหน้าใส ยังมีประโยชน์อื่นๆ อีกด้วยครับ
ฉีดเมโสหน้าใส ผลข้างเคียงมีอะไรบ้าง?
ฉีดเมโสหน้าใส ผลข้างเคียง อะไรบ้าง การฉีดเมโสหน้าใส เป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยสูง ไม่อันตรายครับ เนื่องจากตัวยาที่ฉีดเข้าไปเป็นสารที่มีประโยชน์ต่อผิว จำพวกวิตามินช่วยบำรุงให้ผิวกระจ่างใส ดังนั้น ผลข้างเคียงที่มีจะเป็นในเรื่องของรอยเข็มตามใบหน้าที่เกิดจากตอนฉีดตัวยา ซึ่งจะรอยเข็มเหล่านี้จะหายไปเองภายใน 1-3 วัน ทั้งนี้ควรศึกษาข้อมูลให้ดี เลือกคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ เพื่อความปลอดภัยครับ
เมโสหน้าใส เห็นผลในกี่วัน และต้องทำบ่อยแค่ไหน ?
หลังฉีดเมโสหน้าใส ปกติจะเริ่มเห็นผลประมาณ 3 วันหลังฉีด และจะเห็นผลเต็มที่ประมาณ 7-14 วัน และอยู่ได้ประมาณ 1-2 เดือนขึ้นอยู่กับการดูแลผิวของแต่ละคนด้วยครับ โดยปกติ เมโสหน้าใส จะฉีดอาทิตย์ละครั้งใน1 เดือนแรก และหลังจากนั้นฉีดทุก ๆ 2 อาทิตย์เพื่อคงสภาพ เมโสหน้าใส ไม่มีแบบถาวรครับ สลายหมดไม่มีสารตกค้าง
ข้อควรระวังในการทำเมโสหน้าใส
มี เมโสหน้าใส หลายยี่ห้อที่ไม่ผ่าน อย. นั่นหมายความว่า จะไม่สามารถยืนยัน ที่มาและแหล่งผลิตได้ รวมถึง ไม่มั่นใจว่าตัวยาที่อยู่ในเมโสนั้น ๆ จะเกิดผลเสียในระยะยาวหรือไม่ เช่น ถ้ามีส่วนผสมของ สเตียรอยด์หรือฮอร์โมน ก็จะทำให้เห็นผลไว ผิวขาวเนียนนุ่ม แต่เมื่อฉีดไปนานๆ 1-2 ปี จะทำให้ชั้นผิวบางลง เกิดฝ้า ผิวไวต่อแดดและเกิดริ้วรอยก่อนวัย
ดังนั้น จึงแนะนำว่า ควรขอดูยี่ห้อยา ก่อนฉีดเมโสทุกครั้ง เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัย
มี อย. หมายถึง เป็นยาที่ขึ้นทะเบียนถูกต้อง มีบริษัทที่นำเข้าชัดเจน การขนส่งยาถูกกรรมวิธี ยาไม่เสื่อมสภาพ และสามารถเช็คแหล่งผลิตได้ มีความปลอดภัย สามารถตรวจสอบกับ บริษัทที่นำเข้าได้ว่าคลินิกนั้นๆใช้ยาแท้หรือไม่
ถ้าไม่มี อย. ก็จะไม่มั่นใจว่า ใช่ยาแท้หรือไม่ เนื่องจากมีโรงงานจำนวนมากที่จีนนิยมทำสินค้าเลียนแบบ ประเภท เมโสหน้าใส ต่าง ๆ นี้ออกมามาก เพราะแค่กล่องเล็ก ๆ ก็สามารถขายได้ราคาสูง
โดยที่เทคโนโลยีการปลอมนั้น สามารถเลียนแบบแพคเกจได้เหมือน 100% แม้แต่หมอก็แยกไม่ออก หมอก็ต้องสั่งจากบริษัทที่นำเข้าที่ขึ้นทะเบียนกับ อย.เท่านั้นครับ (ยาหนึ่งยี่ห้อจะมีเพียงบริษัทเดียวที่ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้อง)
เมโสหน้าใส ราคาถูกมากๆ ปลอดภัยจริงหรือ?
ในปัจจุบันมีคนขายเมโสขายในอินเตอร์เน็ต หรือรับฉีดเมโสหน้าใสราคาถูก โดยไม่ใช่แพทย์ ซึ่งอันตรายมากครับ หากขั้นตอนการฉีดไม่มีความสะอาดมากพอ ใช้ตัวยาที่ไม่ผ่านอย. อาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อและเกิดรอยแผลเป็นถาวรได้ครับ
ก่อนตัดสินใจฉีดเมโสหน้าใส ควรศึกษาข้อมูลและเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ มีใบอนุญาตอย่างถูกต้อง ดำเนินงานโดยแพทย์ผู้ที่สามารถให้คำแนะนำอย่างละเอียด ราคาสมเหตุสมผล ควรตรวจสอบตัวยาและกล่องยาก่อนฉีดทุกครั้ง ปกติเมโสหน้าใสที่ผ่าน อย. นั้น บริษัทที่นำเข้ามาอย่างถูกต้อง จะขายให้กับแพทย์เท่านั้นเพราะมีกฏหมายยาบังคับ ยาเมโสหน้าใสที่ลักลอบขายตามอินเทอร์เน็ตจะเป็นยาหิ้วและไม่ปลอดภัยครับ