โบท็อกลดกราม

โบท็อกกราม ให้หน้าเรียว สำหรับหลายๆคน เป็นเรื่องที่คุ้นเคยกันอยู่แล้วใช่ไหมครับ แต่หลายคนอาจยังสงสัยว่าฉีดโบท็อกนั้น ทำให้หน้าเรียวได้ยังไง ทำไมเคยได้ยินว่าฉีดแล้วหน้าไม่เล็กลง ซ้ำร้ายอาจเจอผลข้างเคียง อย่างเช่น ยิ้มไม่สุด แก้มตอบ แก้มห้อยกว่าเดิม ดื้อโบท็อก เพราะสาเหตุจากยาปลอมหรือหมอที่ไม่ชำนาญครับ

หมอจึงได้เขียนบทความนี้ขึ้นมา สำหรับคนที่กำลังหาข้อมูลก่อนตัดสินใจทำโบท็อกลดกรามว่า ฉีดโบท็อกหน้าเรียว ควรเลือกคลินิกที่ไหนดี โบท็อกยี่ห้อไหนดี มีข้อควรระวังอะไรบ้าง มีข้อมูลที่ควรศึกษาก่อนทำดังนี้

การฉีดโบลดกราม ดีอย่างไร?

ด้วยคุณสมบัติของโบท็อกที่สามารถยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อได้นั้น เมื่อฉีดกับกล้ามเนื้อมัดใหญ่ อย่างกล้ามเนื้อกรามที่มีชื่อว่า Masseter จะทำให้ลดการทำงานของกล้ามเนื้อลง ส่งผลทำให้กล้ามเนื้อมัดนั้นมีขนาดเล็กลงครับ โดยโครงหน้าของเราชาวเอเชีย จะมีรูปหน้าค่อนข้างสั้น โหนกแก้มที่กว้าง และมีกรามที่ค่อนข้างใหญ่ ทำให้รูปหน้าค่อนไปทางทรงสี่เหลี่ยม หากเราสามารถลดขนาดของกล้ามเนื้อกรามลงได้ ก็จะส่งผลให้กรามกว้างน้อยลง รูปหน้าจึงเรียวขึ้นได้ครับ

•    ช่วยปรับรูปหน้าเรียวสวย มีมิติ
•    ช่วยลดริ้วรอย กระชับกรอบหน้า
•    ไม่ต้องผ่าตัด ไม่เป็นอันตราย
•    เห็นผลชัดเจน
•    ราคาไม่แพง 
•    ความเสี่ยงต่ำ มีความปลอดภัยสูง

แล้วจะฉีดดีมั้ย?

หมอมีวิธีการง่ายๆให้ทุกคนสามารถตรวจกล้ามเนื้อกรามของตัวเองง่ายๆโดย 
ลองเอามือสองข้างจับบริเวณช่วงกราม แล้วลองกัดฟันดู จะรู้สึกได้ถึงกล้ามเนื้อที่เด้งมาชนมือทั้งสองข้างใช่ไหมครับ…
นั่นแหละครับคือกล้ามเนื้อกราม ซึ่งถ้าหากแรงที่เด้งขึ้นมาชนมือนั้นค่อนข้างที่จะเยอะ ก็แสดงว่ากล้ามเนื้อกรามของคุณค่มีเยอะ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดีนะครับ เพราะว่าถ้าฉีดโบท็อกแล้วคุณจะเห็นผลค่อนข้างชัดเจนนั่นเองครับ

อยากหน้าเรียว ต้องทำโบท็อกลดกราม เท่านั้นจริงหรือ?

การฉีดโบท็อกหน้าเรียวไม่ได้เป็นหัตถการเดียวที่ช่วยปรับรูปหน้าครับ แล้วแต่ปัญหาและจุดที่อยากแก้ไขของคนไข้ หลักๆ มีดังนี้

1.    โบท็อกลดกราม ถ้ากัดกรามแล้วจับแก้มมีกล้ามเนื้อเด้งเยอะ
2.    ฟิลเลอร์คาง ถ้าคางสั้น คางตัด เมื่อเทียบกับสัดส่วนใบหน้า (จะเห็นผลทันที)
3.    เมโสแฟตที่แก้มหรือเหนียง หากมีไขมันส่วนเกินบริเวณนี้
4.    ร้อยไหมดึงแก้ม หรือ ใช้เครื่อง HIFU
5.    Botox Lift

โบท็อกลดกราม ฉีดกับใครก็ได้ เพราะฉีดง่ายฉีดกับหมอกระเป๋า หรือพยาบาลก็ได้ จริงหรือ?

โบท็อกลดกราม หรือ ฉีดโบท็อกหน้าเรียว ถ้าฉีดผิดวิธีด้วยเทคนิคที่ไม่ถูกต้องมีผลเสียหลายอย่าง ดังนี้

•    กรามลด แต่แก้มตอบ ทำให้แก้มส่วนหน้าห้อยลง
•    ยิ้มแข็ง ยิ้มไม่สุด ปากเบี้ยว (แม้แต่ฉีดกับหมอที่เก่งๆก็มีโอกาสเกิดได้ แต่โอกาสน้อยมากๆ)
•    ถ้าเจอยาปลอม ยาหิ้ว จะได้ผลดีในครั้งแรกๆ จะเริ่มดื้อยาในครั้งหลังๆ และจะดื้อโบท็อกไปตลอดชีวิต และหมอกระเป๋าจะไม่สามารถหาซื้อยาแท้ได้ครับ เพราะตามกฏหมายบริษัทยาจะขายยาให้กับแพทย์ที่มีใบอนุญาติเท่านั้น ดังนั้น โบท็อก ฟิลเลอร์ ที่ขายกันตามอินเตอร์เนตราคาถูกๆจึงเป็นยาหิ้ว ยาปลอมทั้งหมด

โบท็อกลดกราม ทำให้ยิ้มแข็ง ๆ ยิ้มไม่สุด ปากเบี้ยวจริงไหม?

(คลิปสวยศาสตร์ ฉีดโบ ทำไมปากเบี้ยว)

อาการยิ้มแข็งๆ ยิ้มไม่สุดจะเกิดขึ้นได้ในกรณีที่โบท็อกแพร่ไปโดนกล้ามเนื้อที่ชื่อ Risorius(ตามรูป) ครับ ซึ่งทำหน้าที่ดึงมุมปากเวลายิ้ม โดยมีปัจจัยที่ทำให้เกิดได้ดังนี้

1.    ฉีดผิดตำแหน่ง ในการฉีดโบท็อกที่กล้ามเนื้อกรามจะมีจุดที่จำเป็นต้องฉีดใกล้กับกล้ามเนื้อ Risorius ซึ่งหมอที่มีประสบการณ์ทุกคนจะพยายามระวังในจุดนี้
2.    ใช้โบท็อกปลอม ยาจึงกระจายตัวไม่สม่ำเสมอ หมอจึงไม่สามารถคาดคะเนระยะการแพร่ของยาได้ถูกต้อง
3.    กล้ามเนื้อ Risorius ของคนไข้เกาะต่ำกว่าปกติ ไม่เหมือนคนทั่วไป พบได้ 1-2% 
4.    กล้ามเนื้อกรามของคนไข้ใหญ่มาก ใช้ยูนิตเยอะ ยาจึงแพร่กระจายกว้าง สามารถป้องกันได้ด้วยการทยอยฉีดโบท็อก ถ้ากล้ามเนื้อกรามใหญ่มากไม่ควรฉีดให้ยุบหมดในครั้งเดียวควรแบ่งฉีด 2 ครั้งห่างกัน 2-3 เดือน

เมื่อเกิดแล้ว จะเป็นแค่ชั่วคราว จะหายได้เองในระยะเวลา 1-2 เดือน การประคบร้อนบริเวณแก้มการนวด RF (Radio Frequency) จะช่วยให้หายไวขึ้นครับ

โบท็อกกราม มีผลข้างเคียงหรือไม่?

•    อาการช้ำตามรอยเข็มฉีดเพียงเล็กน้อยซึ่งจะหายไปได้ภายในประมาณ 3-5 วัน
•    อาจพบอาการบวมหรือตึงตรงบริเวณกราม ในช่วง 3 วันแรก ซึ่งหายได้เองครับ
•    บางคนจะรู้สึกว่าในช่วง 1 สัปดาห์แรกหลังฉีด จะไม่ค่อยมีแรงในการเคี้ยวอาหาร ซึ่งเป็นผลจากการทำงานของโบท็อกและเป็นเพียงชั่วคราวครับ ส่วนใหญ่ อาการนี้จะหายภายใน 1 อาทิตย์ครับ และมักเป็นในคนที่ไม่เคยฉีดมาก่อนครับ

อีก 2 อาทิตย์ จะใช้หน้า โบท็อกลดกราม จะทันไหม?

ใครที่อยากฉีดโบท็อกหน้าเรียว โบท็อกลดกราม แล้วต้องรีบใช้หน้าก็ไม่ต้องกังวลครับ เพราะจะเริ่มเห็นผลใน 2 อาทิตย์ กรามจะนิ่ม ไม่เด้งและยุบได้ประมาณ 10% ครับ จะยุบเต็มที่ใช้เวลา 2 เดือน แต่ 2 อาทิตย์ ก็จะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงแล้วและสามารถทำโบท็อกลิฟกรอบหน้า (Nefertiti lift) ช่วยให้แนวกรามคมขึ้นได้ด้วยครับ

ผลของการฉีดโบท็อกกรามอยู่ได้นานแค่ไหน?

ผลลัพธ์ จะคงอยู่ได้ประมาณ 4-8 เดือน ขึ้นกับหลายปัจจัยครับ ได้แก่ ยี่ห้อของโบท็อกที่เลือกใช้ โดสที่ฉีด ความเข้มข้นของตัวยา(ใส่น้ำเกลือมากหรือน้อย) เป็นต้น

กลัวโบท็อกปลอม ต้องตรวจสอบอย่างไร?

(ใส่รูปภาพ + วีดีโอหมอนัย คลิปดูโบทอกซ์แท้)

โบท็อกลดกราม ควรใช้ของ อเมริกา หรือ เกาหลี?

ข้อดีของ โบท็อก อเมริกา(Allergan)

1.    ความบริสุทธิ์สูง ช่วยลดโอกาสดื้อยา
2.    การกระจายตัวยาแคบ มีความแม่นยำสูง
3.    อยู่ได้นานกว่าประมาณ 10-20%
4.    แต่โบท็อกอเมริการาคาจะสูงกว่าของโบท็อกเกาหลี 2 เท่าครับ ถ้าเทียบความคุ้มค่า ของเกาหลีจะคุ้มค่าคุ้มราคากว่าครับ แต่ถ้าจะเลือกตัวที่ดีที่สุดก็เลือกโบท็อก ของอเมริกาครับ

มีหลายๆคลินิกขาย Botox Allergan (อเมริกา) เป็นยูนิตถูกๆ แต่ใช้ของเกาหลีธรรมดาใส่ขวด Allergan มาฉีดให้ก็ได้ผลใกล้เคียงกันครับ คนไข้ก็แยกไม่ออกครับ จริงๆแล้ว Allergan ควรจะเปิดขวดใหม่ ผสมต่อหน้า เพื่อความมั่นใจว่าของแท้ตามราคาที่จ่ายครับ  

ถ้าหยุดฉีดโบท็อกแล้ว จะเป็นอย่างไร

หลังจากหมดฤทธิ์ของโบท็อกแล้ว กล้ามเนื้อกรามก็จะค่อยๆ กลับมา แต่ขนาดจะไม่ใหญ่กว่าเดิมแน่นอนครับ เพราะการที่ฉีดโบท็อกเข้าไปที่กล้ามเนื้อกราม ทำให้กล้ามเนื้อขยับน้อยลงไปนาน 6 เดือนนั้น จะทำให้กล้ามเนื้อมีขนาดลีบ เล็กลงกว่าก่อนฉีดนั่นเองครับ

(รูปเคสรีวิว โบกราม /วีเชฟน้องสไมล์ น้องฟาเฟิน น้องเม)

แม้ โบท็อกลดกราม หรือ ฉีดโบท็อกหน้าเรียว จะเป็นหัตถการที่คนนิยมทำกันมาก เหมือนเป็นเรื่องปกติใครๆ ก็ทำ แต่ก็มีรายละเอียดที่ควรศึกษาก่อนทำและต้องระวังในหลายๆจุด โดยเฉพาะเรื่องของยาปลอมและเทคนิคการฉีด มิฉะนั้นคนที่ไม่ได้ศึกษาข้อมูลอาจจะได้รับผลการรักษาที่ไม่ดี และรู้สึกผิดหวังได้ แย่ที่สุดคือเจอยาปลอมและดื้อโบท็อกไปตลอดชีวิต