อีกหนึ่งตำแหน่งยอดฮิต ในปัจจุบันที่หลายคนนิยมฉีดฟิลเลอร์ ก็คือ หน้าผาก ครับ เพื่อแก้ไขปัญหาหน้าผากแบนขาดเสน่ห์ ให้นูนสวยได้รูป เป็นผลให้ใบหน้าโดยรวมดูดี ดูเด็กลง ได้สัดส่วนมากขึ้น อีกทั้งในศาสตร์การดูโหงวเฮ้ง หน้าผากถือเป็นประตูแห่งทรัพย์ ยังเชื่อกันว่าหากผู้ใดมีหน้าผากเต็ม นูนสวยอิ่มเอิบ จะนำพาความมั่งมีและวาสนาที่ดีมาให้ครับ
โดยปกติการฉีดรักษาบริเวณหน้าผากทำได้ทั้งคนที่อายุน้อยและอายุมาก แต่หลักการจะแตกต่างกัน คือ อายุต่ำกว่า 30 ปี หมอจะเน้นเน้นปรับรูปโครงหน้าผาก โดยการฉีดเติมหน้าผากให้โหนกนูน เพื่อทำให้ใบหน้าดูสวยหวานขึ้น หลังฉีดหน้าจะดูเรียวขึ้นด้วย
อายุมากกว่า 35 ไปแล้ว การฉีดหน้าผากจะแตกต่างกัน เพราะเนื้อเยื่อของผิวหนังบริเวณหน้าผากจะฝ่อตัวลง ซึ่งรวมถึงชั้นของกระดูกด้วย ที่ค่อยๆยุบตัวลง ทำให้หน้าผากเกิดเป็นร่องบุบ ซึ่งเห็นชัดบริเวณเหนือคิ้วทั้งสอง ทำให้ลักษณะความอ่อนเยาว์ของใบหน้าลดลง หมอจะเน้นฉีดเพื่อเติมเต็มส่วนร่องบุบก่อน แล้วค่อยปรับรูปโครงหน้าผากให้เหมาะสมกับวัยครับ
เราต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่าลักษณะหน้าผากแบบไหนที่เรียกว่าสวย และเป็นธรรมชาติ ซึ่งพอสรุปได้ดังนี้คือ
1.มองด้านข้าง 90 องศา ต้อง มีความโค้งมนจากระดับหว่างคิ้ว ขึ้นไปถึงไรผม โดยไม่มีร่องบุบ
2.มองด้านหน้า จุดนูนที่สุดจะอยู่ช่วงกลางหน้าผาก และประมาณ 2 cm สูงจากระดับหว่างคิ้ว
การฉีดหน้าผากให้สวยมีหลักดังนี้
1.ฉีดลึก เพื่อไปวางฟิลเลอร์ไว้บนกระดูก เพื่อปรับแก้ส่วนกระดูกที่ยุบ ซึ่งจะให้ผลการรักษาดูเหมือนธรรมชาติมาก และเวลาจับหน้าผากดูก็จะรู้สึกเป็นธรรมชาติ คือแข็งเหมือนกระดูกปกติ กดไม่บุ๋ม แต่ถ้าฉีดด้วยไขมันตังเอง หน้าผากจะนูน แต่จะนิ่มๆเวลาจับ และกดบุ๋มเป็นรอยนิ้ว (ฉีดฟิลเลอร์ก็กดบุ๋มได้ถ้าแพทย์ฉีดตื้นเกินไป)
2.ใช้ยาถูกต้อง คือใช้ฟิลเลอร์ HA มีเนื้อเจลที่เป็นอนุภาคเล็ก เนื้อเจลกระจายตัวดี ทำให้หลังฉีดหน้าผากเรียบเนียนเป็นธรรมชาติกว่าใช้ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane รุ่น vital และ Juvederm รุ่น volbella เหมาะสมมากที่สุดในการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เนื้อเนียนละเอียดไม่เป็นก้อน และมียาชาผสมในเนื้อฟิลเลอร์ครับ
การผ่าตัดเสริมหน้าผากด้วยซิลิโคน มีข้อดีคือ อยู่ได้ถาวร แต่ไม่ค่อยเป็นที่นิยม เนื่องจากบวมช้ำค่อนข้างมากต้องพักฟื้นนานเป็นเดือน และมีรอยแผลในไรผมค่อนข้างยาว ตามขนาดของซิลิโคน ดูแลรักษาแผลยาก และหากเสริมมาแล้ว ก็ไม่สามารถปรับลดเพิ่มความโหนกนูนได้ต้องผ่าตัดแก้ไขปรับแต่งเท่านั้น
การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก มีข้อดีคือ เจ็บน้อยกว่าผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น สามารถปรับเพิ่มลดความโหนกนูนได้ตามต้องการและความชอบ หากใช้ฟิลเลอร์แท้ก็จะอยู่ได้ 1-2 ปี และสามารถทยอยเติมใหม่ได้เรื่อยๆ โดยที่คนไข้บางคนอาจจะเริ่มจากการเติมเพียง 1-2cc ในครั้งแรก และค่อยๆทยอยฉีดเพิ่มได้ และหากไม่ชอบก็สามารถฉีดสลายออกบางส่วนเพื่อปรับแต่งได้ตามความต้องการ สะดวกและง่ายกว่าการผ่าตัดมาก
ฟิลเลอร์หน้าผากต้องฉีดด้วยเทคนิคที่ถูกต้องในชั้นเยื่อหุ้มกระดูกเท่านั้น ผลลัพธ์ที่ได้จึงจะดูเป็นธรรมชาติและคงตัว เป็นการเสริมกระดูกขึ้นมา คนไข้ที่ฉีดหน้าผากด้วยเทคนิคนี้เมื่อแตะที่ผิวหน้าผากจะไม่ยวบยาบ คลำไม่เจอฟิลเลอร์แท้ที่เป็นเนื้อนิ่มๆ เพราะฟิลเลอร์จะอยู่ในชั้นใต้เยื่อหุ้มกระดูก ที่เราคลำได้จะเป็นแผ่นเยื่อหุ้มกระดูกแข็งๆที่ถูกฟิลเลอร์ดันให้ยกขึ้น ผิวหน้าผากที่มองเห็นจะเรียบเนียนไม่เป็นคลื่น
หากฉีดในชั้นที่ตื้นขึ้นมาจะอยู่ในชั้นกล้ามเนื้อ สังเกตุได้จากเมื่อแตะดูจะคลำได้เนื้อฟิลเลอร์นิ่มๆที่หน้าผาก เพียงกดเบาๆเนื้อฟิลเลอร์ก็จะยุบหรือไหลได้ เมื่อเวลาผ่านไปฟิลเลอร์จะโดนกล้ามเนื้อที่ใช้ยักคิ้วดึงมากองรวมเป็นก้อน และทำให้ไหลย้อยลงหรือเป็นคลื่นได้ ถึงแม้จะใช้ฟิลเลอร์แท้ก็ตาม
อีกกรณีนึงที่พบบ่อยคือฟิลเลอร์ปลอม เนื่องจากการเติมฟิลเลอร์หน้าผากให้เห็นผลการเปลี่ยนแปลงชัดเจนนั้นต้องใช้ฟิลเลอร์หลายซีซี ตั้งแต่ 3-5cc ขึ้นไป ซึ่งหากใช้ฟิลเลอร์แท้จะมีราคาค่อนข้างสูง หลายคลินิกจึงจัดโปรโมชั่นฟิลเลอร์หน้าผากโดยใช้ฟิลเลอร์ปลอมซึ่งไม่สลายเมื่อเวลาผ่านไปหลายๆปีจึงทำให้ไหลย้อยได้ หรือฟิลเลอร์ปลอมบางชนิดสลายไวและเป็นผังผืดเป็นคลื่น ดังนั้นคนไข้ควรศึกษาข้อมูล และก่อนฉีดควรให้หมอแกะกล่องฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้า หลังฉีดควรขอกล่องกลับบ้านหรือถ่ายรูปกล่องเก็บไว้ตรวจสอบว่าเป็นฟิลเลอร์แท้เพื่อความปลอดภัยครับ
ฟิลเลอร์หน้าผาก เป็นจุดที่อันตรายมาก ถ้าฉีดโดยแพทย์ที่ไม่ชำนาญหรือหมอกระเป๋า เนื่องจากเป็นบริเวณที่มีเส้นเลือดที่เชื่อมไปยังลูกตาได้โดยตรงและการฉีดต้องใช้ปริมาณฟิลเลอร์ในแต่ละจุดค่อนข้างเยอะ แต่ถ้าฉีดด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง แพทย์ที่ชำนาญ และฟิลเลอร์แท้ที่ได้มาตรฐาน ก็มีความปลอดภัย 100% ครับ
ฟิลเลอร์หน้าผาก ในเคสทั่วๆไปที่หมอแนะนำคนไข้ จะเป็นเคสที่แก้ไขร่องหน้าผากบริเวณเหนือคิ้วที่ยุบตัวลงเมื่อเราอายุมากขึ้น คนไข้ส่วนมากจะต้องการแค่ให้ร่องตื้นขึ้นมา หน้าผากเรียบเข้ารูป โดยไม่ได้ต้องการความโหนกนูน จะดูเป็นธรรมชาตินั่นคือการแก้ไขกระดูกส่วนที่ยุบตัวลงเป็นการแก้ที่สาเหตุ ในกรณีนี้จะใช้ปริมาณฟิลเลอร์ไม่มาก 1-2cc ก็เพียงพอแล้ว
ในเคสที่ต้องการเสริมโหงวเฮ้งฟิลเลอร์หน้าผากให้โหนกนูนคนไข้สามารถเลือกรูปของคนที่หน้าผากสวยๆมาให้หมอดูเป็นตัวอย่างได้และหมอจะประเมินว่าควรใช้กี่ cc และวางแผนการรักษาร่วมกับคนไข้ตามความเหมาะสม ค่อยๆทยอยฉีดได้ ครับ ซึ่งปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ทั้งหมดในกรณีนี้ก็จะอยู่ในช่วง 3-5cc
ฟิลเลอร์หน้าผากไม่ควรฉีดเกินครั้งละ 5cc เนื่องจากจะเกิดการกดทับเนื้อเยื่อและบวมลงมาถึงบริเวณรอบดวงตาได้ แต่ก็จะเป็นแค่ชั่วคราวไม่เกิน 14 วันก็จะหายเป็นปกติครับ
จริงครับ เพราะการฉีดโบท๊อกซ์ เพื่อแก้ริ้วรอยหน้าผากบ่อยๆ ให้หน้าผากตึง จะพบการบุบยุบของหน้าผากได้เร็วขึ้น จากกล้ามเนื้อที่ฝ่อตัวลงจากยาที่ฉีดนั่นเองครับ
หน้าผาก (กัวล๊กเก็ง) ตามตำราโหงวเฮ้ง อยู่ตรงกลางหน้าผาก จะเกี่ยวกับการทำธุรกิจ และหน้าที่การงานโดยตรง
• ลักษณะเด่น โหนกนูนพอดีๆ ไม่บุบ ใส เกลี้ยงเกลา จะปราศจากเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาลสู้คดีต่าง ๆ ตลอดชีวิต และถ้าหาก 4 ด้านล้อมกรอบมีความอิ่มสมบูรณ์ดีงามตามลักษณะของหน้าผากที่สวยก็จะเป็นการอุ้มชูเจ้าชะตาเข้าไปอีก เป็นคนที่ขวนขวายหาความรู้ วิสัยทัศน์กว้างไกล รุ่งโรจน์ไปได้ตลอดกาล ด้านธุรกิจก็จะได้รับการสนับสนุนจากผู้คนในทุกๆวงการ หากมีหน้าผากกว้าง แสดงว่าการเลี้ยงดูจากครอบครัวคุณดี อุดมสมบูรณ์
• ลักษณะด้อย เป็นร่องบุ๋ม มีริ้วรอย ไม่เรียบ กระดูกโปน เจ้าชะตาจะต้องเจอแต่เรื่องอุบัติเหตุ หรือภัยร้ายต่าง ๆ นานาอยู่เรื่อย ๆ และหากด้านข้างไรผมไม่สวย ยังหมายถึงตำแหน่งการงานขึ้นช้า ขาดคนอุปถัมภ์ เจ้านายไม่สนับสนุน ประมาณว่า รับราชการไม่รุ่งเรืองนั่นเอง บางคนมีตำหนิแผลเป็น หรือยุบ ยังหมายถึง ทำงานแต่ละที่ไม่ทน ต้องย้ายที่ทำงานบ่อย
อีกหนึ่งตำแหน่งยอดฮิต ในปัจจุบันที่หลายคนนิยมฉีดฟิลเลอร์ ก็คือ หน้าผาก ครับ เพื่อแก้ไขปัญหาหน้าผากแบนขาดเสน่ห์ ให้นูนสวยได้รูป เป็นผลให้ใบหน้าโดยรวมดูดี ดูเด็กลง ได้สัดส่วนมากขึ้น อีกทั้งในศาสตร์การดูโหงวเฮ้ง หน้าผากถือเป็นประตูแห่งทรัพย์ ยังเชื่อกันว่าหากผู้ใดมีหน้าผากเต็ม นูนสวยอิ่มเอิบ จะนำพาความมั่งมีและวาสนาที่ดีมาให้ครับ
หน้าผาก คนละวัย แก้คนละเทคนิค
โดยปกติการฉีดรักษาบริเวณหน้าผากทำได้ทั้งคนที่อายุน้อยและอายุมาก แต่หลักการจะแตกต่างกัน คือ อายุต่ำกว่า 30 ปี หมอจะเน้นเน้นปรับรูปโครงหน้าผาก โดยการฉีดเติมหน้าผากให้โหนกนูน เพื่อทำให้ใบหน้าดูสวยหวานขึ้น หลังฉีดหน้าจะดูเรียวขึ้นด้วย
อายุมากกว่า 35 ไปแล้ว การฉีดหน้าผากจะแตกต่างกัน เพราะเนื้อเยื่อของผิวหนังบริเวณหน้าผากจะฝ่อตัวลง ซึ่งรวมถึงชั้นของกระดูกด้วย ที่ค่อยๆยุบตัวลง ทำให้หน้าผากเกิดเป็นร่องบุบ ซึ่งเห็นชัดบริเวณเหนือคิ้วทั้งสอง ทำให้ลักษณะความอ่อนเยาว์ของใบหน้าลดลง หมอจะเน้นฉีดเพื่อเติมเต็มส่วนร่องบุบก่อน แล้วค่อยปรับรูปโครงหน้าผากให้เหมาะสมกับวัยครับ
แบบไหนที่เรียกว่าหน้าผากสวย
เราต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่าลักษณะหน้าผากแบบไหนที่เรียกว่าสวย และเป็นธรรมชาติ ซึ่งพอสรุปได้ดังนี้คือ
1.มองด้านข้าง 90 องศา ต้อง มีความโค้งมนจากระดับหว่างคิ้ว ขึ้นไปถึงไรผม โดยไม่มีร่องบุบ
2.มองด้านหน้า จุดนูนที่สุดจะอยู่ช่วงกลางหน้าผาก และประมาณ 2 cm สูงจากระดับหว่างคิ้ว
เทคนิคการฉีดที่ทำให้ได้หน้าผากสวย
การฉีดหน้าผากให้สวยมีหลักดังนี้
1.ฉีดลึก เพื่อไปวางฟิลเลอร์ไว้บนกระดูก เพื่อปรับแก้ส่วนกระดูกที่ยุบ ซึ่งจะให้ผลการรักษาดูเหมือนธรรมชาติมาก และเวลาจับหน้าผากดูก็จะรู้สึกเป็นธรรมชาติ คือแข็งเหมือนกระดูกปกติ กดไม่บุ๋ม แต่ถ้าฉีดด้วยไขมันตังเอง หน้าผากจะนูน แต่จะนิ่มๆเวลาจับ และกดบุ๋มเป็นรอยนิ้ว (ฉีดฟิลเลอร์ก็กดบุ๋มได้ถ้าแพทย์ฉีดตื้นเกินไป)
2.ใช้ยาถูกต้อง คือใช้ฟิลเลอร์ HA มีเนื้อเจลที่เป็นอนุภาคเล็ก เนื้อเจลกระจายตัวดี ทำให้หลังฉีดหน้าผากเรียบเนียนเป็นธรรมชาติกว่าใช้ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane รุ่น vital และ Juvederm รุ่น volbella เหมาะสมมากที่สุดในการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เนื้อเนียนละเอียดไม่เป็นก้อน และมียาชาผสมในเนื้อฟิลเลอร์ครับ
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก vs การผ่าตัดเสริมหน้าผาก
การผ่าตัดเสริมหน้าผากด้วยซิลิโคน มีข้อดีคือ อยู่ได้ถาวร แต่ไม่ค่อยเป็นที่นิยม เนื่องจากบวมช้ำค่อนข้างมากต้องพักฟื้นนานเป็นเดือน และมีรอยแผลในไรผมค่อนข้างยาว ตามขนาดของซิลิโคน ดูแลรักษาแผลยาก และหากเสริมมาแล้ว ก็ไม่สามารถปรับลดเพิ่มความโหนกนูนได้ต้องผ่าตัดแก้ไขปรับแต่งเท่านั้น
การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก มีข้อดีคือ เจ็บน้อยกว่าผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น สามารถปรับเพิ่มลดความโหนกนูนได้ตามต้องการและความชอบ หากใช้ฟิลเลอร์แท้ก็จะอยู่ได้ 1-2 ปี และสามารถทยอยเติมใหม่ได้เรื่อยๆ โดยที่คนไข้บางคนอาจจะเริ่มจากการเติมเพียง 1-2cc ในครั้งแรก และค่อยๆทยอยฉีดเพิ่มได้ และหากไม่ชอบก็สามารถฉีดสลายออกบางส่วนเพื่อปรับแต่งได้ตามความต้องการ สะดวกและง่ายกว่าการผ่าตัดมาก
ทำไมบางคนที่ ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากแล้ว เป็นก้อน เป็นคลื่น ไม่เรียบเนียน
ฟิลเลอร์หน้าผากต้องฉีดด้วยเทคนิคที่ถูกต้องในชั้นเยื่อหุ้มกระดูกเท่านั้น ผลลัพธ์ที่ได้จึงจะดูเป็นธรรมชาติและคงตัว เป็นการเสริมกระดูกขึ้นมา คนไข้ที่ฉีดหน้าผากด้วยเทคนิคนี้เมื่อแตะที่ผิวหน้าผากจะไม่ยวบยาบ คลำไม่เจอฟิลเลอร์แท้ที่เป็นเนื้อนิ่มๆ เพราะฟิลเลอร์จะอยู่ในชั้นใต้เยื่อหุ้มกระดูก ที่เราคลำได้จะเป็นแผ่นเยื่อหุ้มกระดูกแข็งๆที่ถูกฟิลเลอร์ดันให้ยกขึ้น ผิวหน้าผากที่มองเห็นจะเรียบเนียนไม่เป็นคลื่น
หากฉีดในชั้นที่ตื้นขึ้นมาจะอยู่ในชั้นกล้ามเนื้อ สังเกตุได้จากเมื่อแตะดูจะคลำได้เนื้อฟิลเลอร์นิ่มๆที่หน้าผาก เพียงกดเบาๆเนื้อฟิลเลอร์ก็จะยุบหรือไหลได้ เมื่อเวลาผ่านไปฟิลเลอร์จะโดนกล้ามเนื้อที่ใช้ยักคิ้วดึงมากองรวมเป็นก้อน และทำให้ไหลย้อยลงหรือเป็นคลื่นได้ ถึงแม้จะใช้ฟิลเลอร์แท้ก็ตาม
อีกกรณีนึงที่พบบ่อยคือฟิลเลอร์ปลอม เนื่องจากการเติมฟิลเลอร์หน้าผากให้เห็นผลการเปลี่ยนแปลงชัดเจนนั้นต้องใช้ฟิลเลอร์หลายซีซี ตั้งแต่ 3-5cc ขึ้นไป ซึ่งหากใช้ฟิลเลอร์แท้จะมีราคาค่อนข้างสูง หลายคลินิกจึงจัดโปรโมชั่นฟิลเลอร์หน้าผากโดยใช้ฟิลเลอร์ปลอมซึ่งไม่สลายเมื่อเวลาผ่านไปหลายๆปีจึงทำให้ไหลย้อยได้ หรือฟิลเลอร์ปลอมบางชนิดสลายไวและเป็นผังผืดเป็นคลื่น ดังนั้นคนไข้ควรศึกษาข้อมูล และก่อนฉีดควรให้หมอแกะกล่องฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้า หลังฉีดควรขอกล่องกลับบ้านหรือถ่ายรูปกล่องเก็บไว้ตรวจสอบว่าเป็นฟิลเลอร์แท้เพื่อความปลอดภัยครับ
ฟิลเลอร์หน้าผาก อันตรายไหม?
ฟิลเลอร์หน้าผาก เป็นจุดที่อันตรายมาก ถ้าฉีดโดยแพทย์ที่ไม่ชำนาญหรือหมอกระเป๋า เนื่องจากเป็นบริเวณที่มีเส้นเลือดที่เชื่อมไปยังลูกตาได้โดยตรงและการฉีดต้องใช้ปริมาณฟิลเลอร์ในแต่ละจุดค่อนข้างเยอะ แต่ถ้าฉีดด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง แพทย์ที่ชำนาญ และฟิลเลอร์แท้ที่ได้มาตรฐาน ก็มีความปลอดภัย 100% ครับ
ฟิลเลอร์หน้าผาก ใช้กี่ cc?
ฟิลเลอร์หน้าผาก ในเคสทั่วๆไปที่หมอแนะนำคนไข้ จะเป็นเคสที่แก้ไขร่องหน้าผากบริเวณเหนือคิ้วที่ยุบตัวลงเมื่อเราอายุมากขึ้น คนไข้ส่วนมากจะต้องการแค่ให้ร่องตื้นขึ้นมา หน้าผากเรียบเข้ารูป โดยไม่ได้ต้องการความโหนกนูน จะดูเป็นธรรมชาตินั่นคือการแก้ไขกระดูกส่วนที่ยุบตัวลงเป็นการแก้ที่สาเหตุ ในกรณีนี้จะใช้ปริมาณฟิลเลอร์ไม่มาก 1-2cc ก็เพียงพอแล้ว
ในเคสที่ต้องการเสริมโหงวเฮ้งฟิลเลอร์หน้าผากให้โหนกนูนคนไข้สามารถเลือกรูปของคนที่หน้าผากสวยๆมาให้หมอดูเป็นตัวอย่างได้และหมอจะประเมินว่าควรใช้กี่ cc และวางแผนการรักษาร่วมกับคนไข้ตามความเหมาะสม ค่อยๆทยอยฉีดได้ ครับ ซึ่งปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ทั้งหมดในกรณีนี้ก็จะอยู่ในช่วง 3-5cc
ฟิลเลอร์หน้าผากไม่ควรฉีดเกินครั้งละ 5cc เนื่องจากจะเกิดการกดทับเนื้อเยื่อและบวมลงมาถึงบริเวณรอบดวงตาได้ แต่ก็จะเป็นแค่ชั่วคราวไม่เกิน 14 วันก็จะหายเป็นปกติครับ
จริงมั้ย ฉีดโบท๊อกหน้าผากบ่อยๆ ทำให้หน้าผากยุบ?
จริงครับ เพราะการฉีดโบท๊อกซ์ เพื่อแก้ริ้วรอยหน้าผากบ่อยๆ ให้หน้าผากตึง จะพบการบุบยุบของหน้าผากได้เร็วขึ้น จากกล้ามเนื้อที่ฝ่อตัวลงจากยาที่ฉีดนั่นเองครับ
โหงวเฮ้งหน้าผาก วาสนาดีดูอย่างไร
หน้าผาก (กัวล๊กเก็ง) ตามตำราโหงวเฮ้ง อยู่ตรงกลางหน้าผาก จะเกี่ยวกับการทำธุรกิจ และหน้าที่การงานโดยตรง
• ลักษณะเด่น โหนกนูนพอดีๆ ไม่บุบ ใส เกลี้ยงเกลา จะปราศจากเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาลสู้คดีต่าง ๆ ตลอดชีวิต และถ้าหาก 4 ด้านล้อมกรอบมีความอิ่มสมบูรณ์ดีงามตามลักษณะของหน้าผากที่สวยก็จะเป็นการอุ้มชูเจ้าชะตาเข้าไปอีก เป็นคนที่ขวนขวายหาความรู้ วิสัยทัศน์กว้างไกล รุ่งโรจน์ไปได้ตลอดกาล ด้านธุรกิจก็จะได้รับการสนับสนุนจากผู้คนในทุกๆวงการ หากมีหน้าผากกว้าง แสดงว่าการเลี้ยงดูจากครอบครัวคุณดี อุดมสมบูรณ์
• ลักษณะด้อย เป็นร่องบุ๋ม มีริ้วรอย ไม่เรียบ กระดูกโปน เจ้าชะตาจะต้องเจอแต่เรื่องอุบัติเหตุ หรือภัยร้ายต่าง ๆ นานาอยู่เรื่อย ๆ และหากด้านข้างไรผมไม่สวย ยังหมายถึงตำแหน่งการงานขึ้นช้า ขาดคนอุปถัมภ์ เจ้านายไม่สนับสนุน ประมาณว่า รับราชการไม่รุ่งเรืองนั่นเอง บางคนมีตำหนิแผลเป็น หรือยุบ ยังหมายถึง ทำงานแต่ละที่ไม่ทน ต้องย้ายที่ทำงานบ่อย